ข้อมูลสมาคม
เครื่องหมายของสมาคม
เครื่องหมายของสมาคม มี 2 แบบ คือ แบบภาษาไทย และแบบภาษาอังกฤษ ดังนี้
- แบบภาษาไทย เป็นรูปตัวอักษร สวคท ขนาดใหญ่ และมีข้อความ “สมาคมครูวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย” กำกับอยู่ด้านบน
- แบบภาษาอังกฤษ เป็นตัวอักษร SMTAT ขนาดใหญ่ และมีข้อความ “Science Mathematics and Technology Teachers Association of Thailand” กำกับอยู่ด้านบน
SMTAT
วัตถุประสงค์ของสมาคม
- เป็นศูนย์กลางสำหรับการจัดกิจกรรมทางวิชาการ รวบรวม และเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร ตลอดจนส่งเสริมการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และผลงานของสมาชิกเพื่อยกระดับมาตรฐาน วิชาชีพการสอนวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี
- เป็นศูนย์กลางติดต่อประสานงาน และให้ความร่วมมือกับองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนทั้งใน และต่างประเทศ ในด้านที่เกี่ยวกับการเรียนการสอนและการจัดการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี
- ส่งเสริมสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ เกี่ยวกับการเรียนการสอนและการจัดการศึกษาด้าน วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี
- ส่งเสริมการค้นคว้าวิจัย และประดิษฐ์คิดค้นที่เกี่ยวกับการเรียนการสอนและการจัดการศึกษา ด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี
- ส่งเสริมความสามัคคี และสวัสดิการของสมาชิก
การดำเนินกิจการสมาคม
- ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่ง ทำหน้าที่บริหารกิจการของสมาคม มีจำนวนอย่างน้อย 12 คน อย่างมากไม่เกิน 21 คน โดยที่ประชุมใหญ่เป็นผู้กำหนดจำนวนกรรมการในแต่ละวาระ คณะกรรมการประกอบด้วย
- กรรมการที่มาจากการเลือกตั้งของที่ประชุมใหญ่จำนวนสองในสามของกรรมการ ทั้งหมดที่จะมีในวาระนั้น
- กรรมการที่คณะกรรมการบริหารสมาคมชุดปัจจุบันสรรหาจำนวนหนึ่งในสามของกรรมการทั้งหมดที่จะมีในวาระนั้น โดยสรรหามาจากสมาชิกสายวิชาวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ หรือเทคโนโลยี
- ให้คณะกรรมการเลือกกันเองเป็นนายกสมาคมหนึ่งคน สำหรับตำแหน่งอื่น ๆ ให้นายกสมาคมเป็นผู้แต่งตั้งเข้าดำรงตำแหน่งต่าง ๆ ของสมาคมที่ได้กำหนดไว้ ซึ่งตำแหน่งของกรรมการสมาคมมีตำแหน่งและหน้าที่โดยสังเขป ดังต่อไปนี้
- นายกสมาคม ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าในการบริหารกิจการของสมาคม เป็นผู้แทนสมาคม ในการติดต่อกับบุคคลภายนอก และทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุมคณะกรรมการ และการประชุมใหญ่ของสมาคม
- อุปนายก ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยนายกสมาคมในการบริหารกิจการสมาคม ปฏิบัติตามหน้าที่ที่นายกสมาคมได้มอบหมายและทำหน้าที่แทนนายกสมาคม เมื่อนายกสมาคมไม่อยู่ หรือไม่สามารถที่จะปฏิบัติหน้าที่ได้ การทำหน้าที่แทนนายกสมาคมให้อุปนายกตามลำดับตำแหน่งเป็นผู้กระทำการแทน
- เลขาธิการ ทำหน้าที่เกี่ยวกับงานธุรการของสมาคมทั้งหมด เป็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่ ของสมาคมในการปฏิบัติกิจการของสมาคม และปฏิบัติตามคำสั่งของ นายกสมาคมตลอดจนทำหน้าที่เป็นเลขานุการในการประชุมต่าง ๆ ของสมาคม
- เหรัญญิก ทำหน้าที่เกี่ยวกับการเงินทั้งหมดของสมาคม เป็นผู้ทำบัญชีรายรับ รายจ่าย บัญชีงบดุลของสมาคม และเก็บเอกสารและหลักฐานต่าง ๆ ของสมาคมไว้เพื่อการตรวจสอบ
- นายทะเบียน ทำหน้าที่เกี่ยวกับทะเบียนสมาชิกทั้งหมดของสมาคม ประสานงานกับเหรัญญิกในการเรียกเก็บเงินค่ารักษาสมาชิกภาพจากสมาชิก
- กรรมการตำแหน่งอื่น ๆ ตามความเหมาะสม ซึ่งคณะกรรมการเห็นสมควรกำหนดให้มีขึ้น โดยมีจำนวนเมื่อรวมกับตำแหน่งกรรมการข้างต้นแล้วจะต้องไม่เกินจำนวนที่ข้อบังคับได้กำหนดไว้ แต่ถ้าคณะกรรมการมิได้กำหนดตำแหน่งก็ถือว่าเป็นกรรมการกลาง
- ให้เชิญผู้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นกรรมการที่ปรึกษา
- คณะกรรมการของสมาคมสามารถอยู่ในตำแหน่งได้คราวละ 3 ปี และเมื่อคณะกรรมการอยู่ในตำแหน่งครบกำหนดตามวาระแล้ว แต่คณะกรรมการชุดใหม่ยังไม่ได้รับอนุญาตให้จดทะเบียน จากทางราชการ ก็ให้คณะกรรมการที่ครบกำหนดตามวาระรักษาการไปพลางก่อน จนกว่าคณะกรรมการชุดใหม่จะได้รับอนุญาตให้จดทะเบียนจากทางราชการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ให้ทำการส่งและรับมอบงานกันระหว่างคณะกรรมการชุดเก่า และคณะกรรมการชุดใหม่ให้เป็นที่เสร็จสิ้นภายใน 30 วันนับตั้งแต่วันที่คณะกรรมการชุดใหม่ได้รับอนุญาตให้จดทะเบียนจากทางราชการ
- ตำแหน่งกรรมการสมาคม ถ้าต้องว่างลงก่อนครบกำหนดวาระ คณะกรรมการอาจแต่งตั้งสมาชิก สามัญคนใดคนหนึ่งที่เห็นสมควรเข้าดำรงตำแหน่งแทนตำแหน่งที่ว่างลงนั้น แต่ผู้ดำรงตำแหน่งแทนอยู่ในตำแหน่งได้เท่ากับวาระของผู้ที่ตนแทนเท่านั้น
- กรรมการอาจจะพ้นจากตำแหน่ง ซึ่งมิใช่เป็นการออกตามวาระด้วยเหตุดังต่อไปนี้ คือ
- ตาย
- ลาออก
- ขาดจากสมาชิกภาพ
- ที่ประชุมใหญ่ของสมาคมลงมติให้ออกจากตำแหน่ง
- กรรมการที่ประสงค์จะลาออกจากตำแหน่งกรรมการให้ยื่นใบลาออกเป็นลายลักษณ์อักษรต่อคณะกรรมการ และให้พ้นจากตำแหน่งเมื่อคณะกรรมการมีมติให้ออก
- อำนาจและหน้าที่ของคณะกรรมการ
- มีอำนาจออกระเบียบปฏิบัติต่างๆ เพื่อให้สมาชิกได้ปฏิบัติ โดยระเบียบปฏิบัตินั้นจะต้องไม่ขัดต่อข้อบังคับฉบับนี้
- มีอำนาจแต่งตั้งและถอดถอนเจ้าหน้าที่ของสมาคม
- มีอำนาจแต่งตั้งกรรมการที่ปรึกษาหรืออนุกรรมการได้ แต่กรรมการที่ปรึกษาหรืออนุกรรมการจะสามารถอยู่ในตำแหน่งได้ไม่เกินวาระของคณะกรรมการที่แต่งตั้ง
- มีอำนาจ เรียกประชุมใหญ่สามัญประจำปี และประชุมใหญ่วิสามัญ
- มีอำนาจแต่งตั้งกรรมการในตำแหน่งอื่น ๆ ที่ยังมิได้กำหนดไว้ในข้อบังคับนี้
- มีอำนาจบริหารกิจการของสมาคมเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ตลอดจนมีอำนาจอื่น ๆ ตามที่ข้อบังคับได้กำหนดไว้
- มีหน้าที่รับผิดชอบในกิจกรรมทั้งหมด รวมทั้งการเงิน และทรัพย์สินทั้งหมดของสมาคม
- มีหน้าที่จัดให้มีการประชุมใหญ่วิสามัญตามที่สมาชิกสามัญจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 เข้าชื่อร้องขอให้จัดประชุมใหญ่วิสามัญขึ้น ซึ่งการนี้จะต้องจัดให้มีการประชุมใหญ่วิสามัญขึ้นภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือร้องขอ
- มีหน้าที่จัดทำเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ทั้งที่เกี่ยวกับการเงิน ทรัพย์สิน และการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ของสมาคมให้ถูกต้องตามหลักวิชาการ และสามารถจะให้สมาชิกตรวจดูได้เมื่อสมาชิกร้องขอ
- จัดทำบันทึกการประชุมต่างๆ ของสมาคม เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐานและจัดส่งให้สมาชิกได้รับทราบ
- มีหน้าที่อื่น ๆ ตามที่ข้อบังคับได้กำหนดไว้
- คณะกรรมการจะต้องประชุมกันอย่างน้อยปีละ 3 ครั้ง ทั้งนี้เพื่อปรึกษาหารือเกี่ยวกับการบริหารกิจการของสมาคม
- การประชุมคณะกรรมการจะต้องมีกรรมการเข้าร่วมประชุมไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของกรรมการทั้งหมด จึงจะถือว่าครบองค์ประชุม มติของที่ประชุมคณะกรรมการ ถ้าข้อบังคับมิได้กำหนดไว้เป็นอย่างอื่น ก็ให้ถือคะแนนเสียงมากเป็นเกณฑ์ แต่ถ้าคะแนนเสียงเท่ากันก็ให้ประธานในการประชุมเป็นผู้ชี้ขาด
- ในการประชุมคณะกรรมการ ถ้านายกสมาคมและอุปนายกสมาคมไม่อยู่ในที่ประชุมหรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ก็ให้กรรมการที่เข้าประชุมในคราวนั้นเลือกตั้งกันเอง เพื่อให้คณะกรรมการคนใดคนหนึ่งทำหน้าที่เป็นประธานในการประชุมคราวนั้น
การประชุม
- การประชุมใหญ่ของสมาคมมี 2 ชนิด คือ
- ประชุมใหญ่สามัญ
- ประชุมใหญ่วิสามัญ
- คณะกรรมการจะต้องจัดให้มีการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ๆ ละ 1 ครั้งภายในเดือนตุลาคมของ ทุก ๆ ปี
- การประชุมใหญ่วิสามัญอาจจะมีขึ้นได้โดยเหตุที่คณะกรรมการเห็นควรจัดให้มีขึ้นหรือเกิดขึ้น ด้วยการเข้าชื่อร่วมกันของสมาชิกไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ของสมาชิกสามัญทั้งหมดร้องขอต่อ คณะกรรมการให้จัดให้มีขึ้น
- การแจ้งกำหนดนัดประชุมใหญ่ให้เลขาธิการเป็นผู้แจ้งกำหนดนัดประชุมใหญ่ให้สมาชิกได้ทราบและการแจ้งจะต้องแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษร โดยระบุวัน เวลา และสถานที่ให้ชัดเจน โดยจะต้องแจ้งให้สมาชิกได้ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 7 วัน และประกาศแจ้งกำหนดนัดประชุมไว้ ณ สำนักงานของสมาคมเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 7 วัน ก่อนถึงกำหนดการประชุมใหญ่
- การประชุมใหญ่สามัญประจำปี จะต้องมีวาระการประชุมอย่างน้อยดังต่อไปนี้
- แถลงกิจการที่ผ่านมาในรอบปี
- แถลงบัญชีรายรับ รายจ่าย และบัญชีงบดุลของปีที่ผ่านมาให้สมาชิกรับทราบ
- เลือกตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ เมื่อครบกำหนดวาระ
- แต่งตั้งผู้สอบบัญชี
- เรื่องอื่น ๆ ถ้ามี
- ในการประชุมใหญ่สามัญประจำปีหรือการประชุมใหญ่วิสามัญจะต้องมีสมาชิกสามัญเข้าร่วม ประชุมไม่น้อยกว่า 100 คนจึงจะถือว่าครบองค์ประชุม แต่ถ้าเมื่อถึงกำหนดเวลาประชุมยังมี สมาชิกสามัญเข้าร่วมประชุมไม่ครบองค์ประชุมก็ให้ขยายเวลาออกไปอีกพอสมควร แต่เมื่อครบ กำหนดเวลาที่ขยายออกไปแล้ว ยังมีสมาชิกเข้าร่วมประชุมไม่ครบองค์ประชุม ก็ให้เลื่อนการ ประชุมคราวนั้นไปและให้จัดประชุมใหญ่อีก ครั้งหนึ่งภายใน 14 วันนับตั้งแต่วันที่ได้เลื่อนการ ประชุมในครั้งแรก สำหรับการประชุมในครั้งหลังนี้มีสมาชิกเข้าร่วมประชุมจำนวนเท่าใดก็ให้ถือ ว่าครบองค์ประชุม ยกเว้นถ้าเป็นการประชุมใหญ่วิสามัญที่เกิดขึ้นจากการร้องขอของสมาชิกก็ไม่ ต้องจัดประชุมใหญ่ ให้ถือว่าการประชุมเป็นอันยกเลิก
- การลงมติต่าง ๆ ในที่ประชุมใหญ่ ถ้าข้อบังคับมิได้กำหนดไว้เป็นอย่างอื่น ก็ให้ถือคะแนนเสียงข้างมากเป็นเกณฑ์ แต่ถ้าคะแนนเสียงที่ลงมติมีคะแนนเสียงเท่ากันก็ให้ประธานในการประชุมเป็นผู้ชี้ขาด
- ในการประชุมใหญ่ของสมาคม ถ้านายกสมาคมและอุปนายกสมาคมไม่มาร่วมประชุมหรือไม่สามารถจะปฏิบัติหน้าที่ได้ ก็ให้ที่ประชุมใหญ่ทำการเลือกตั้งกรรมการที่มาร่วมประชุมคนใดคนหนึ่ง ให้ทำหน้าที่เป็นประธานในการประชุมคราวนั้น
การเงินและทรัพย์สิน
- การเงินและทรัพย์สินทั้งหมดให้อยู่ในความรับผิดชอบของคณะกรรมการ เงินสดของสมาคมถ้า มีให้นำฝากไว้ในธนาคารหรือสถาบันการเงินที่คณะกรรมการเห็นชอบ
- การลงนามในตั๋วเงินหรือเช็คของสมาคม จะต้องมีลายมือชื่อของนายกสมาคมหรือผู้ทำการแทนลงนามร่วมกับเหรัญญิก หรือเลขาธิการ พร้อมกับประทับตราเครื่องหมายของสมาคม จึงจะถือว่าใช้ได้
- ให้นายกสมาคมมีอำนาจสั่งจ่ายเงินของสมาคมได้ครั้งละไม่เกิน 20,000 บาท (สองหมื่นบาทถ้วน) ถ้าเกินกว่านั้นจะต้องได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการ และคณะกรรมการจะอนุมัติให้จ่ายเงินได้ครั้งละไม่เกิน 200,000 บาท (สองแสนบาทถ้วน) ถ้าจำเป็นจะต้องจ่ายเกินกว่านั้น ต้องได้รับอนุมัติจากที่ประชุมใหญ่ของสมาคม
- ให้เหรัญญิกมีอำนาจเก็บรักษาเงินสดของสมาคมได้ไม่เกิน 10,000 บาท (หนึ่งหมื่นบาทถ้วน) ถ้า เกินกว่าจำนวนนี้จะต้องนำฝากธนาคารหรือสถาบันการเงินในบัญชีของสมาคมทันทีที่โอกาส อำนวยให้
- เหรัญญิกจะต้องทำบัญชีรายรับ รายจ่าย และบัญชีงบดุลให้ถูกต้องตามหลักวิชาการ การรับหรือจ่ายเงินทุกครั้งจะต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ ลงลายมือชื่อของนายกสมาคมหรือผู้ทำการแทน ร่วมกับเหรัญญิก หรือผู้ทำการแทน
- ผู้สอบบัญชีจะต้องมิใช่กรรมการหรือเจ้าหน้าที่ของสมาคมและจะต้องเป็นผู้สอบบัญชีที่ได้รับอนุญาต
- ผู้สอบบัญชี มีอำนาจที่จะเรียกเอกสารที่เกี่ยวกับการเงินและทรัพย์สินจากคณะกรรมการและสามารถจะเชิญกรรมการหรือเจ้าหน้าที่ของสมาคมเพื่อสอบถามเกี่ยวกับบัญชีและทรัพย์สินของสมาคมได้
- คณะกรรมการจะต้องให้ความร่วมมือกับผู้สอบบัญชี เมื่อได้รับการร้องขอ
- รายได้ของสมาคมประกอบด้วย
- ค่าลงทะเบียนและค่ารักษาสมาชิกภาพที่เรียกเก็บจากสมาชิก
- รายได้ที่เกิดจากกิจกรรมต่าง ๆ ที่สมาคมจัดขึ้น
- เงินอุดหนุนจากสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และหน่วยงานอื่น
- เงินและทรัพย์สินอย่างอื่นซึ่งบุคคลหรือองค์การบริจาคให้แก่สมาคม
- ดอกผลหรือประโยชน์อันเกิดจากเงินหรือทรัพย์สินที่สมาคมนำไปดำเนินการเพื่อหา รายได้บำรุงสมาคม
การเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อบังคับและการเลิกสมาคม
- ข้อบังคับของสมาคมจะเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้โดยมติของที่ประชุมใหญ่เท่านั้น มติของที่ ประชุมใหญ่ในการให้เปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อบังคับจะต้องมีคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสาม ของสมาชิกสามัญที่เข้าร่วมประชุมทั้งหมด
- การเลิกสมาคมจะเลิกได้ก็โดยมติของที่ประชุมใหญ่ของสมาคม ยกเว้นเป็นการเลิกเพราะเหตุของกฎหมาย มติของที่ประชุมใหญ่ที่ให้เลิกสมาคมจะต้องมีคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของสมาชิกสามัญทั้งหมด
- เมื่อสมาคมต้องเลิกไม่ว่าด้วยเหตุใด ๆ ก็ตาม ทรัพย์สินของสมาคมที่เหลืออยู่หลังจากที่ได้ชำระบัญชีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ให้ตกเป็นของสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธิการ
เบ็ดเตล็ด
- การตีความข้อบังคับของสมาคม หากเป็นที่สงสัยให้ที่ประชุมใหญ่โดยเสียงข้างมากของที่ประชุมชี้ขาด
- ให้นำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยสมาคมมาใช้บังคับ ในเมื่อข้อบังคับของสมาคมมิได้กำหนดไว้ และหากมีข้อบังคับใดขัดกับประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ก็ให้ถือปฏิบัติตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
- สมาคมต้องไม่ดำเนินการหาผลประโยชน์มาแบ่งปันกัน หรือเพื่อบุคคลใดนอกจากเพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของสมาคมเอง
บทเฉพาะกาล
- ภายใน 3 ปี นับตั้งแต่วันที่สมาคมได้รับอนุญาตให้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลสมาชิกสามัญที่ชำระค่าบำรุงคราวเดียว 300 บาท ถือเป็นสมาชิกตลอดชีพ
- ข้อบังคับฉบับนี้นั้น ให้เริ่มใช้บังคับได้นับตั้งแต่วันที่สมาคมได้รับอนุญาตให้จดทะเบียนเป็น นิติบุคคล เป็นต้นไป
- เมื่อสมาคมได้รับอนุญาตให้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลจากทางราชการ ก็ให้ถือว่าผู้เริ่มการทั้งหมดเป็นสมาชิกสามัญ และรักษาการในตำแหน่งกรรมการของสมาคมเพื่อรับสมาชิก และเมื่อรับสมัครสมาชิกสามัญได้จำนวนพอสมควรก็ให้จัดให้มีการประชุมใหญ่ขึ้น เพื่อเลือกตั้งคณะกรรมการชุดแรกของสมาคม แต่ทั้งนี้จะต้องดำเนินการจัดประชุมใหญ่ให้เสร็จสิ้นภายใน 1 ปี นับตั้งแต่วันที่สมาคมได้รับอนุญาตให้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล
คณะกรรมการสมาคม ในปัจจุบัน
- นายพรชัย อินทร์ฉาย นายกสมาคม
- นายปกรณ์ โอภาประกาสิต อุปนายก
- นางปาริฉัตร พวงมณี อุปนายก
- นางพันธุ์ทิพย์ ทิมสุกใส กรรมการวิทยาศาสตร์
- นายสมบัติ เอกเชี่ยวชาญ กรรมการวิทยาศาสตร์
- นางสาวคงนิตา เคยนิยม กรรมการวิทยาศาสตร์
- นางพรรณี บุญประกอบ กรรมการคณิตศาสตร์
- นางมาลินท์ อิทธิรส กรรมการคณิตศาสตร์
- นางสาวระวี สุวรรณเดโชชัย กรรมการคณิตศาสตร์
- นางแจ่มจันทร์ ศรีอรุณรัศมี กรรมการเทคโนโลยี
- นางสาวน้ำฝน คูเจริญไพศาล กรรมการวิทยาศาสตร์ และประธานฝ่ายวิชาการ
- นายพูนศักดิ์ สักกทัตติยกุล กรรมการเทคโนโลยี และนายทะเบียน
- นางสาวนารี วงศ์สิโรจน์กุล กรรมการเทคโนโลยี และเหรัญญิก
- นางสาวอลงกรณ์ ตั้งสงวนธรรม กรรมการคณิตศาสตร์ และเลขาธิการ
- นายอภิสิทธิ์ ธงไชย กรรมการเทคโนโลยี และผู้ช่วยเลขาธิการ